






















อาหารที่เหมาะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์เลือดกรุ๊ป O
คุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊ปเลือดโอ มีน้ำย่อยในระบบย่อยอาหารมีความเป็นกรดสูง ดังนั้น จึงสามารถย่อยอาหารจำพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ดีกว่าคนกรุ๊ปอื่นๆ แต่จะย่อยนมและชีสได้ไม่ดี พบได้บ่อยที่มีอาการท้องเสียหลังดื่มนม ระบบการเผาผลาญของคุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊ปเลือดโอไม่ค่อยดีเพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่คงที่ ปัญหาที่ตามมาทำให้น้ำหนักพุ่งสูงช่วงตั้งครรภ์ และยังพบว่า คุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊บเลือดโอ มักตรวจพบภาวะเลือดแข็งตัวช้าอีกด้วย
คุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊ปเลือดโอ ควรเลือกรับประทานอาหารดังนี้
1.เลือกรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะน้ำย่อยของ คุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊ปเลือดโอ มีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ดีและดูดซึมอย่างมีประสิทธิภาพ แต่มีอาหารที่ควรยกเว้นพวกเนื้อหมู แฮม เบคอน เพราะมีไขมันสูง นอกจากนี้ ยังควรทานตับ และเซี่ยงจี๊ ซึ่งมีวิตามินบี ส่วน นม เนย ไข่ ทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าจะให้ดีควรเลือกทานโปรตีนที่มีไขมันต่ำ เช่น โปรตีนจากพืช เต้าหู้
2.เนื้อปลาและอาหารทะเล ควรรับประทานอาหารทะเลสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งไม่ควรรับประทานถี่ เพราะคอเรสเตอรอลสูง เพื่อเพิ่มแคลเซียมที่ร่างกายจะไม่ได้รับจากการทานนมวัวหรือชีส และอาหารทะเลนี้จะช่วยเพิ่มไอโออีนให้คนกรุ๊ปโอ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคไทรอยด์ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายกับคนกรุ๊ปนี้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยเรื่องการป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัวด้วย
3.ผัก ควรทานบรอกโคลี ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง กุยช่าย สาหร่าย ปวยเล้ง หอมหัวใหญ่ ที่มีวิตามินเคสูง ช่วยเรื่องเลือดแข็งตัว เพราะคนกรุ๊ปนี้จะมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ผักที่แนะนำมาทั้งหมด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญอีกด้วย
4.ผลไม้ แนะนำผลไม้ตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี ผลไม้ที่มีสีแดงเข้ม หรือสีม่วง ซึ่งมีความเป็นด่างสูง เช่น ลูกพลับ ลูกพรุน มะเดื่อ ช่วยลดการระคายเคืองของกระเพาะอาหารได้ดี
5. เครื่องดื่ม แนะนำดื่มน้ำสับปะรด เพราะช่วยอุ้มน้ำของเซลล์ในร่างกาย หรือน้ำแบล็กเชอรี่ จัดว่าเป็นน้ำที่ดีกับเลือดกรุ๊ปโอมาก
อาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์กรุ๊ปเลือดโอควรหลีกเลี่ยง
1.อาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปัง เพราะเลคตินในแป้งสาลีจะทำปฏิกิริยาที่เป็นผลเสียต่อเลือดและรบกวนระบบเผาผลาญของร่างกาย นอกจากนี้ ยังทำให้น้ำหนักเพิ่มและเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อมด้วย
2.ผัก งดกะหล่ำปลี เนื่องจากสารในกระหล่ำปลีขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ เห็ดหอมและมะกอก ทำให้เกิดอาการแพ้ รวมทั้งมะเขือยาว มันฝรั่ง ข้าวโพด ทำให้ปวดข้อ
3.ผลไม้ ควรเลี่ยงผลไม้ที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง รวมทั้งกรดสูงเกินไป เช่น แบล็กเบอร์รี มะเฟือง แคนตาลูป มะพร้าว สตรอว์เบอร์รี และผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย เพราะมีกรดสูงเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้แสบกระเพาะ
4. เครื่องดื่ม ควรงด ประเภทชา กาแฟ และเบียร์ เพราะเป็นเครื่องดื่มประเภทกรด หากดื่มเข้าไปก็จะยิ่งไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารซึ่งมีอยู่มากแล้ว ทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองได้