ภาวะ ชีแฮน ซินโดรม (sheehan’s syndrome)
ชีแฮน ซินโดรม ในคุณแม่หลังคลอด ส่วนใหญ่จะเกิดจากตกเลือดรุนแรงระหว่างคลอด คุณแม่จะเสียเลือดประมาณ 800-1000 CC ขึ้นไป ซึ่งการตกเลือดในปริมาณมากทำให้เลือดไปเลี้ยงต่อมใต้สมองไม่เพียงพอ เกิดการตายถาวรของเนื้อบริเวณต่อมใต้สมอง ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนไปควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายได้น้อยลง ระบบในร่างกายก็จะทำงานผิดปกติ ซึ่งคุณแม่บางคนจะมีผลกระทบหลังคลอด หรือไม่ก็ผ่านไปแล้วเป็นปี จึงจะทราบว่าตัวเองมีภาวะซีแฮน ซินโดรม
อาการของภาวะ ชีแฮน ซินโดรม
1.ไม่มีน้ำนม คุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่จะไม่มีน้ำนมออกมาในวันแรก แต่จะมีอาการคัดที่เต้านม ซึ่งภาวะชีแฮน ซินโดรม ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกคัดที่เต้านม กระตุ้นน้ำนมเท่าไรก็ไม่ออกมาเลย
2.ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมระบบการเผาผลาญในร่างกายได้ คุณแม่จะรู้สึกหนาว ผิวแห้ง ผมแห้งการเผาผลาญมีน้อยทำให้อ้วนง่าย นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย คิดไม่ค่อยออก พูดช้าๆ
3.รังไข่ไม่สร้างฮอร์โมน ทำให้ขนาดของหน้าอกลดลง ช่องคลอดแห้ง อารมณ์ทางเพศหายไป ประจำเดือนไม่มาหรือมาไม่ปกติ อารมณ์ทางเพศหายไปหรือลดลง
4.ต่อมหมวกไตมีปัญหา ต่อมหมวกไตจะทำหน้าที่หลั่งสารคอร์ติชอลเพื่อช่วยร่างกายในการปรับตัวรับกับภาวะเครียดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้เราอดทนต่อภาวะเครียดได้ เช่น ทำให้น้ำตาลและความดันสูงขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นลมหรือช็อกง่าย ๆ แต่เมื่อต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ แล้วเวลาเจอภาวะเครียดจะตอบสนองไม่ทัน เกิดอารมณ์แปรปรวน อาการปวดหลังไม่สบายตัว ไม่สดชื่น เหนื่อยทั้งวัน และหากต่อมหมวกไตต้องทำงานหนักเรื่อยๆ จนเกิดภาวะวิกฤติ เมื่อเจอกับภาวะเครียดรุนแรงก็อาจช็อกได้
5.ผลิตโกรว์ทฮอร์โมนไม่เพียงพอ ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่สามารถทำงานออกแรงได้เหมือนเดิม
วิธีการรักษา ภาวะชีแฮน ซินโดรม
: คุณหมอจะรักษาโดยการตรวจเลือดดูว่าคุณแม่นั้นขาดฮอร์โมนตัวไหน ก็จะให้กินฮอร์โมนตัวนั้นทดแทนไป โดยคุณแม่ต้องกินฮอร์โมนไปตลอดชีวิต วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีรักษาที่ดีที่สุด สำหรับคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกกินนมแม่ สามารถให้กินได้ตามปกติ เพราะฮอร์โมนที่ใช้รักษาส่วนใหญ่จะเป็นสเตียรอยด์ และฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งคุณแม่จะได้รับในปริมาณไม่มากและผ่านน้ำนมได้น้อยมาก ยกเว้นกรณีที่ได้รับฮอร์โมนปริมาณมากเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ก็จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกได้ แต่มีวิธีที่จะทำให้ยาไปถึงลูกให้น้อยที่สุดด้วยการกินยาหลังจากให้นมลูกในแต่ละมื้อ เพราะกว่าจะถึงการให้นมมื้อต่อไป ยาก็จะหมดฤทธิ์ในร่างกายแล้ว ไม่ส่งผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก