อัจฉริยะ หรือ สมาธิสั้น
คำจำกัดความของอัจฉริยะ
เด็กอัจฉริยะ เด็กปัญญาเลิศ หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษ คือ เด็กที่มีระดับสติปัญญาสูงมาก ระดับสติปัญญา ( Intelligence quotient หรือ I.Q. อาจสูงถึง 130-140 มีประชากรส่วนน้อยที่ I.Q. สูง คือเกิน 120 ซึ่งเรียกว่าฉลาดมาก และก็มีไม่มากนักในสังคมที่ I.Q. ต่ำกว่าเกณฑ์มากๆ คือน้อยกว่า 70 ซึ่งอาจเรียกว่าระดับสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ หรือบกพร่องทางสติปัญญา
การกำหนดจำนวนเด็กที่มีความสามารถพิเศษจึงมีความสำคัญมาก เพราะจำนวนเด็กบางคนใช้เกณฑ์จากการทดสอบระดับสติปัญญาด้วย I.Q. Test เด็กอัจฉริยะจะมีไอคิวตั้งแต่130 ขึ้นไป ซึ่งก็คือค่าที่สูงกว่า 2 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviations) นั่นเอง ซึ่งก็คือ 2.5 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ได้คะแนนสูงสุด
ผู้เชี่ยวชาญบางท่านอาจใช้ผลการศึกษา โดยนิยามเด็กอัจฉริยะว่าคือ เด็กที่สามารถผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา เกินกว่าระดับอายุของตนเอง 2 ระดับชั้น เช่น เด็กอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แต่สามารถทำข้อสอบของชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้
รู้ได้อย่างไรว่าลูกอัจฉริยะ
จากการศึกษาวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า พัฒนาการของเด็กอัจฉริยะมีดังต่อไปนี้
- ร้อยละ94 ของเด็กมีสมาธิต่อเนื่องนานกว่าเด็กวัยเดียวกัน
- ร้อยละ91 มีพัฒนาการทางภาษาเร็ว
- ร้อยละ60 มีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อเร็ว
- เด็กอัจฉริยะเริ่มพูดคำแรกอายุเฉลี่ยเพียง 9 เดือน เริ่มอ่านหนังสือง่ายๆ ได้อายุ 4 ปี
- ร้อยละ 52 ไวต่อความรู้สึกเจ็บปวด
- มีเหตุมีผล เป็นนักคิด
- มักเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
- สามารถจดจำคำศัพท์ ต่างๆ ได้จำนวนมาก
- มีความจำเป็นเยื่ยม
- ถ้าสนใจอะไรแล้วจะมีสมาธิสนใจ จดจ่อได้เป็นเวลานาน
- เป็นคนอ่อนไหว (Sensitive) จึงรู้สึกเจ็บปวด ผิดหวังได้ง่าย
- คาดหวังว่าทุกอย่างต้องสมบูรณ์ (Perfectionistic ) ในวัยอนุบาล เด็กอัจฉริยะบางคนอาจจะค่อนข้างเจ้ากี้ เจ้าการ พยายามจัดการงานหรือเพื่อนๆ ตามที่ตัวเองต้องการ และจะผิดหวังง่ายเมื่อคนอื่นไม่เห็นด้วย หรือไม่ร่วมมือ เมื่อโตขึ้นเข้าวัยประถม เด็กอัจฉริยะมักจะมีมาตรฐานสูง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องดีพร้อม ประกอบกับชอบสั่งผู้อื่น ชอบทำตัวเป็นเจ้านาย พยายามบริหารจัดการเพื่อน ครู ไปจนถึงพ่อแม่
- ตึงเครียดง่าย การที่เด็กอัจฉริยะมักจะเครียดง่าย อ่อนไหวง่าย อาจทำให้ถูกผู้ใหญ่มองว่าดื้อ ต่อต้านคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครู โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถูกดุว่าหรือลงโทษหรือถูกมอง ว่าชอบทำอะไรแตกต่างจากคนอื่น
- มีคุณธรรมและความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดีสูง อาจรู้สึกสงสาร เห็นอก เห็นใจ ผู้ที่ตกทุกข์ ได้ยากมากกว่าปกติ เด็กอัจฉริยะบางคนอาจร้องไห้ สงสาร คนจรจัดที่เก็บขยะอยู่ข้างถนน สงสารตัวละครในโทรทัศน์ที่กำลังถูกกระทำ หรือได้รับความลำบาก
- มีความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าเด็กทั่วไป
- หมกมุ่นเฉพาะเรื่องที่ตนเองสนใจ
- มีพลังมากในการทำสิ่งต่างๆ อาจถูกวินิจฉัยผิดเป็นโรคสมาธิสั้น เนื่องจากเด็กอัจฉริยะมักมีลักษณะอ่อนไหว ตึงเครียดง่าย หุนหันพลันแล่น อดทนรออะไรไม่ได้ ค่อนข้างซน อยู่ไม่นิ่ง จึงอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กสมาธิสั้น อย่างไรก็ตาม เด็กอัจฉริยะส่วนหนึ่งอาจเป็นโรคสมาธิสั้นร่วมด้วยก็ได้
- ชอบคบเพื่อนที่อายุมากกว่าหรือผู้ใหญ่
- มีความสนใจในเรื่องต่างๆ มากมาย
- มีอารมณ์ขัน แต่มักเป็นอารมณ์ขันที่เพื่อนไม่เข้าใจ
- เป็นนักอ่านตัวยง ถ้าอายุยังน้อย เช่น วัยก่อนอนุบาล อ่านหนังสือเองไม่ได้ ก็ชอบที่จะให้พ่อแม่อ่านให้ฟัง เด็กส่วนใหญ่ถ้ายังไม่ได้เข้าโรงเรียนมักอ่านหนังสือไม่ได้ โรงเรียนอนุบาลส่วนใหญ่ก็มักจะยังไม่ได้สอนการอ่าน แต่เด็กอัจฉริยะบางคนอ่านหนังสือได้เร็วกว่าปกติ และอ่านได้ตั้งแต่วัยอนุบาล
- ผดุงความยุติธรรม ชอบความถูกต้อง เป็นธรรม
- การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ดีเกินวัย
- เป็นนักสังเกตการณ์ชั้นยอด
- มีจินตนาการกว้างไกล
- มีความคิดสร้างสรรค์
- ชอบซักถาม
- มีอัจฉริยภาพด้านการคำนวณ
- มีความสามารถสูงในการต่อจิ๊กซอว์
- เด็กอัจฉริยะมักมีความมั่นใจในความสามารถเกี่ยวกับเรื่องการเรียนของตนเองสูง นอกจากนี้แล้ว ยังต้องการหลักสูตรการศึกษาซึ่งท้าทายมากกว่าเด็กทั่วๆ ไป
- เด็กอัจฉริยะบางคนอาจมีพรสวรรค์เป็นพิเศษในด้านดนตรี ศิลปะ วรรณกรรม หรือการคิดแบบวิทยาศาสตร์